ในโลกของการซื้อขายหลักทรัพย์ คริปโต หรือแม้แต่ฟอเร็กซ์ (Forex) คำว่า Bid และ Offer หรือที่บางที่เรียกว่า Ask คือสิ่งพื้นฐานที่ทุกนักลงทุนควรรู้ เพราะเป็นตัวกำหนดราคาที่เราจะ “ซื้อ” หรือ “ขาย” ได้จริงในตลาด ณ เวลานั้น
แต่หลายคนยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าจริง ๆ แล้ว Bid Offer คืออะไร ต่างกันอย่างไร และทำไมมันถึงสำคัญในการเทรด บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน พร้อมตัวอย่างและเทคนิคการใช้งานจริง
Bid Offer คืออะไร?
Bid คืออะไร?
Bid (บิด) หมายถึง ราคาที่ผู้ซื้อยินดีจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์ ณ เวลานั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่ง: Bid = ราคาที่ผู้ “อยากซื้อ” พร้อมจ่าย
ตัวอย่าง: หากราคาหุ้นของบริษัท A มี Bid อยู่ที่ 100 บาท หมายความว่ามีคนพร้อม “ซื้อ” หุ้นนี้ในราคา 100 บาท
Offer (หรือ Ask) คืออะไร?
Offer (ออฟเฟอร์) หรือบางครั้งเรียกว่า Ask หมายถึง ราคาที่ผู้ขายยินดีขายสินทรัพย์ ณ เวลานั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่ง: Offer = ราคาที่ผู้ “อยากขาย” ต้องการ
ตัวอย่าง: หากมี Offer อยู่ที่ 102 บาท หมายความว่ามีคนพร้อม “ขาย” หุ้นในราคา 102 บาท
Bid กับ Offer ต่างกันอย่างไร?
รายการ | Bid | Offer (Ask) |
ความหมาย | ราคาที่ผู้ซื้อเสนอ | ราคาที่ผู้ขายต้องการ |
ตำแหน่งในหน้าจอเทรด | ด้านซ้าย | ด้านขวา |
ใครเสนอ | ผู้ซื้อ | ผู้ขาย |
ตัวเลข | ต่ำกว่า Offer | สูงกว่า Bid |
Bid ต่ำกว่า Offer เสมอ เพราะผู้ซื้ออยากซื้อถูก ผู้ขายอยากขายแพง
Bid-Offer Spread คืออะไร?
Bid-Offer Spread คือ ส่วนต่างระหว่างราคา Bid กับ Offer ซึ่งสะท้อนถึงสภาพคล่องและความเคลื่อนไหวของตลาด
สูตร:
Spread = Offer – Bid
ตัวอย่าง:
- Bid: 100 บาท
- Offer: 102 บาท
- Spread = 2 บาท
Spread บอกอะไรเรา?
- Spread แคบ (น้อย) = สภาพคล่องสูง เช่น หุ้นใหญ่ในตลาด
- Spread กว้าง (มาก) = สภาพคล่องต่ำ เช่น หุ้นเล็ก คริปโตบางตัว
การรู้ Spread ช่วยให้นักลงทุนประเมินความเสี่ยงและต้นทุนแฝงของการเทรดได้แม่นยำ
Outfit คืออะไร? เข้าใจคำนี้ให้ลึก แล้วแต่งตัวให้ดูดีในทุกวัน
ASMR คืออะไร? รู้จักเสียงกระซิบที่ช่วยให้ผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น
ทำไม Bid Offer ถึงสำคัญ?
1. ช่วยให้รู้ราคาตลาดจริง
Bid Offer คือ “ภาพสะท้อน” ของอุปสงค์และอุปทาน ณ ขณะนั้น
2. ใช้ในการวางแผนซื้อขาย
รู้ว่าควรตั้งคำสั่ง (Order) ที่ราคาไหนเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
3. มีผลต่อต้นทุนการเทรด
Spread คือ “ค่าธรรมเนียมแฝง” ยิ่งกว้าง ยิ่งเสียเปรียบ
4. ช่วยวิเคราะห์ความแรงของตลาด
หาก Bid เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แสดงว่าตลาดมีแรงซื้อสูง → แนวโน้มขาขึ้น
ตัวอย่างการใช้งานจริงของ Bid และ Offer
สถานการณ์: เทรดหุ้น
- Bid: 98 บาท (มีคนรอซื้อ)
- Offer: 100 บาท (มีคนรอขาย)
หากคุณต้องการขายเร็ว → กดขายที่ 98 บาท
หากคุณต้องการซื้อทันที → กดซื้อที่ 100 บาท
สถานการณ์: เทรดคริปโต
- ETH/USDT
- Bid: 2,000 USDT
- Offer: 2,005 USDT
- Spread = 5 USDT
หากคุณซื้อแล้วขายทันที จะขาดทุนทันที 5 USDT (ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม)
เทคนิคการใช้ Bid Offer อย่างมืออาชีพ
- ดู “ลึก” กว่าตัวเลขเดียว
เช่น ดู Order Book หรือสมุดคำสั่งซื้อ-ขาย - สังเกตแนวโน้ม Bid
หาก Bid เพิ่มต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณแรงซื้อ - ไม่รีบร้อน
รอให้ Bid กับ Offer ขยับใกล้กันก่อนค่อยเข้าซื้อ - เหมาะกับเทรดเดอร์แบบ Day Trade และ Scalping
ผู้ที่เทรดรายวันหรือรายนาที ต้องจับตา Bid Offer ตลอดเวลา
คำศัพท์เกี่ยวข้องที่ควรรู้
คำศัพท์ | ความหมาย |
Order Book | สมุดคำสั่งซื้อขายทั้งหมด |
Market Order | คำสั่งซื้อ/ขายทันทีตามราคาตลาด |
Limit Order | คำสั่งซื้อ/ขายที่ราคาที่เราตั้งเอง |
Slippage | การซื้อ/ขายในราคาที่แย่กว่าที่ตั้งใจ เพราะราคาขยับเร็ว |
Bid Offer มีในตลาดไหนบ้าง?
- ตลาดหุ้น (Stock Exchange)
- ตลาดคริปโต (Crypto Exchange)
- ตลาดฟอเร็กซ์ (Forex)
- ตลาดฟิวเจอร์ส และอนุพันธ์อื่น ๆ
ทุกตลาดที่มีการซื้อขายแบบเรียลไทม์ ล้วนมี Bid และ Offer เป็นองค์ประกอบหลัก
สรุป
เมื่อคุณเข้าใจว่า Bid Offer คืออะไร แล้ว จะเห็นว่าสิ่งนี้คือพื้นฐานสำคัญของทุกการลงทุนในตลาดการเงิน
- Bid = ราคาที่ผู้ซื้อพร้อมจ่าย
- Offer (Ask) = ราคาที่ผู้ขายต้องการ
- Spread = ส่วนต่างราคาที่ส่งผลต่อต้นทุนและโอกาสกำไร
นักลงทุนที่เข้าใจ Bid Offer อย่างแท้จริง จะสามารถวางกลยุทธ์ซื้อขายได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และได้เปรียบในเกมการลงทุนทุกตลาด