ในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวนสูงอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum เหรียญหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดในด้านความมั่นคงคือ USDT หลายคนอาจเคยเห็นชื่อเหรียญนี้ผ่านหูผ่านตาเวลาซื้อขายในตลาดคริปโต แต่ยังไม่รู้ว่า USDT คืออะไร และมีบทบาทสำคัญอย่างไรในระบบการเงินยุคใหม่
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ USDT อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย การทำงาน ไปจนถึงข้อดี ข้อเสีย และวิธีใช้งานในชีวิตจริง
USDT คืออะไร?
USDT หรือ Tether เป็นเหรียญคริปโตประเภท Stablecoin ที่มีมูลค่าผูกกับ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในอัตรา 1 USDT ≈ 1 USD
กล่าวคือ ไม่ว่าราคาของเหรียญคริปโตอื่น ๆ จะผันผวนแค่ไหน ราคาของ USDT จะคงที่ใกล้เคียงกับ 1 ดอลลาร์เสมอ
Tether Limited คือบริษัทผู้ออกเหรียญ USDT โดยอ้างว่าทุกเหรียญที่ออกมานั้นมีเงินดอลลาร์จริงสำรองไว้ในบัญชีธนาคารเพื่อรองรับมูลค่า
จุดเด่นของ USDT
การเข้าใจว่า USDT คืออะไร จะไม่สมบูรณ์หากไม่รู้ข้อดีของเหรียญนี้ ซึ่งรวมถึง:
- เสถียรภาพสูง: เพราะมูลค่าผูกกับ USD
- ใช้โอนเงินระหว่างประเทศรวดเร็ว: โอนข้ามประเทศในไม่กี่วินาที ค่าธรรมเนียมต่ำ
- เหมาะสำหรับพักกำไร: นักเทรดมักขายคริปโตแล้วพักไว้ใน USDT ระหว่างรอจังหวะใหม่
- รองรับบนหลายบล็อกเชน: เช่น Ethereum (ERC-20), Tron (TRC-20), Binance Smart Chain (BEP-20)
ความแตกต่างระหว่าง USDT กับ Stablecoin อื่น ๆ
ในตลาดยังมี Stablecoin อีกหลายเหรียญ เช่น USDC, BUSD, DAI แต่ USDT ก็ยังได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยเหตุผลว่า:
- สภาพคล่องสูงสุด: มียอดซื้อขายต่อวันสูงที่สุดในโลก
- รองรับในแพลตฟอร์มเทรดแทบทุกแห่ง: Binance, Bitkub, OKX, Bitfinex ฯลฯ
- ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรทำความเข้าใจว่า ไม่ใช่ทุก Stablecoin จะน่าเชื่อถือเท่ากัน
USDT ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
หลังจากรู้ว่า USDT คืออะไร เรามาดูกันว่าเหรียญนี้สามารถใช้งานอะไรได้จริงบ้าง:
1. ซื้อขายคริปโต
USDT มักถูกใช้เป็น “คู่เทรด” กับเหรียญอื่น เช่น BTC/USDT หรือ ETH/USDT ช่วยให้การซื้อขายสะดวกและไม่ต้องแปลงกลับเป็นเงินบาทบ่อย ๆ
2. เก็บมูลค่า (Store of Value)
ในช่วงตลาดผันผวน นักลงทุนมักจะขายคริปโตแล้วเปลี่ยนเป็น USDT เพื่อรักษามูลค่าพอร์ต
3. โอนเงินระหว่างประเทศ
USDT ทำให้สามารถส่งเงินข้ามประเทศได้เร็วกว่าและถูกกว่าการโอนผ่านธนาคาร
4. ใช้ใน DeFi และ Yield Farming
สามารถนำ USDT ไปฝากในแพลตฟอร์มการเงินกระจายศูนย์ (DeFi) เพื่อรับดอกเบี้ยหรือรางวัลต่าง ๆ ได้
วิธีเก็บรักษา USDT
USDT สามารถเก็บไว้ได้ทั้งในกระเป๋าร้อน (Hot Wallet) และกระเป๋าเย็น (Cold Wallet) เช่น:
- Hot Wallet: Trust Wallet, MetaMask, Binance Wallet
- Cold Wallet: Ledger Nano, Trezor สำหรับความปลอดภัยขั้นสูง
ข้อแนะนำ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้เครือข่ายที่ถูกต้อง เช่น TRC20, ERC20, BEP20 เวลาโอนเหรียญ เพื่อป้องกันความผิดพลาด
ความเสี่ยงที่ควรรู้เกี่ยวกับ USDT
แม้ว่าเหรียญ USDT จะมีเสถียรภาพ แต่ก็มีประเด็นที่นักลงทุนควรรู้:
- ยังมีคำถามเรื่องเงินสำรอง: บางช่วงบริษัท Tether เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่มีเงินสำรองเต็มจำนวนจริง
- อาจถูกควบคุมจากภาครัฐในอนาคต: โดยเฉพาะหากรัฐบาลต่างประเทศเข้ามาควบคุมคริปโตมากขึ้น
- ความเสี่ยงจากการใช้ Wallet: หากผู้ใช้โอนผิด Chain หรือโดนแฮก อาจเสียเหรียญถาวร
เปรียบเทียบ USDT กับเงินบาท (THB)
หัวข้อ | USDT | THB |
เสถียรภาพ | ผูกกับ USD | ควบคุมโดยธนาคารแห่งประเทศไทย |
การโอนระหว่างประเทศ | รวดเร็ว | ใช้เวลาหลายวัน |
ค่าธรรมเนียม | ต่ำมาก | สูง |
ความนิยมในคริปโต | สูงมาก | ต่ำ |
จากตาราง จะเห็นว่า USDT มีความได้เปรียบด้านความเร็วและต้นทุนในการใช้งาน โดยเฉพาะในโลกดิจิทัล
สรุป
เมื่อคุณเข้าใจว่า USDT คืออะไร แล้ว จะเห็นได้ว่ามันเป็นมากกว่าแค่เหรียญคริปโตทั่วไป เพราะ USDT ทำหน้าที่เสมือน “เงินดอลลาร์ในโลกดิจิทัล” ช่วยให้การซื้อขายคริปโต โอนเงิน และเก็บมูลค่าเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานควรศึกษาและบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เพราะแม้เหรียญจะมีเสถียรภาพ แต่ก็ไม่ได้ไร้ความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง
หากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมือโปร USDT คืออีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ควรมีติดพอร์ตไว้แน่นอน